ชวนรู้จักและสังเกตอาการของโรคกระดูกสันหลังคด

หลังคด หรือโรคกระดูกสันหลังคดเป็นโรคที่มีความอันตรายที่หลายคนมักมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่การเสียบุคลิกภาพเฉย ๆ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก วันนี้เราอยากชวนทุกคนไปรู้จักกับโรคกระดูกสันหลังคด รวมถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยง ตามมาดูกัน

ทำความรู้จักโรคกระดูกสันหลังคด

โรคกระดูกสันหลังคด คือ อาการผิดรูปของแนวกระดูกสันหลัง โดยที่กระดูกสันหลังจะมีอาการคดโค้งออกไปทางด้านข้าง มีลักษณะคล้ายตัว C หรือตัว S เป็นโรคที่พบได้ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งมักพบมากในช่วงอายุ 10 -15 ปี ซึ่งประมาณ 80% ของผู้ป่วยนั้นเป็นโรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งโรคนี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล และเสียการทรงตัว

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคกระดูกสันหลังคด

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้มีโอกาสเกิดโรคได้สูงมีดังนี้

1. เพศ มีโอกาสเกิดขึ้นในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

2. อายุ มักมีโอกาสสูงในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น แต่วัยผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน

3. พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ก็ย่อมส่งผลให้มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน

สังเกตอาการของโรคกระดูกสันหลังคด

หากสังเกตร่างกายและสรีระของตัวเองและพบอาการดังต่อไปนี้ ควรติดต่อเข้าแพทย์เพื่อรับการรักษา

• ระดับหัวไหล่ทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

• กระดูกสะบักมีความโก่งนูนมากขึ้น

• แผ่นหลังหรือหน้าอกนูนไม่เท่ากัน

• ร่องเอวทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

• สะโพกทั้งสองข้างมีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน

• สามารถมองเห็นแนวกระดูกสันหลังไม่ตรงหรือคดงอได้ชัด

• ลำตัวเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง

• ขาทั้งสองข้างมีความยาวไม่เท่ากัน

• อาการอื่นๆ ที่ควรสังเกต เช่น เจ็บซี่โครง กล้ามเนื้อหดตัว หรือปวดท้อง

การรักษาโรคกระดูกสันหลังคด

1. รักษาโดยไม่ทำการผ่าตัด

เป็นการรักษาโดยการทำกายภาพบำบัดแทนการผ่าตัด ซึ่งจะใช้วิธีการรักษานี้กับคนไข้ที่มีอาการไม่มาก โดยจะต้องมีการออกกำลังกายที่สม่ำเสมออย่างเหมาะสม และการใส่เสื้อเกราะดัดหลังในการรักษาร่วมด้วย

2. รักษาโดยการผ่าตัด

สำหรับคนไข้ที่มีอาหารหลังคดอย่างรุนแรง หรือลองรักษาด้วยวิธีการอื่นแล้วยังไม่หาย แพทย์อาจเลือกใช้วิธีการผ่าตัดเชื่อมกระดูกสันหลังในการรักษา โดยจะทำการยึดโลหะชิ้นเล็กๆ เข้ากับแนวกระดูกสันหลังเพื่อเป็นการยึดสันหลังเอาไว้ และจะมีการปรับความยาวของโลหะทุกๆ 6 เดือน

เราอยากให้ทุกคนสังเกตอาการและลักษณะร่างกายของตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นโรคนี้ เพราะโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน และสำหรับใครที่มีอาการผิดปกติของร่างกายตามข้อมูลที่เราได้ให้ไว้ข้างต้น เราแนะนำว่าคุณควรรีบติดต่อขอเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่อาการของโรคจะรุนแรงเพิ่มขึ้น