ม.อ.ภูเก็ต ร่วมภาคีเครือข่าย เสริมสร้างสมรรถนะและขีดความสามารถบุคลากรในระบบส่งเสริมสุขภาพให้ได้มาตรฐานรองรับการท่องเที่ยวสุขภาพ เพื่อดันอันดามันและอ่าวไทยสู่เวลเนสระดับโลก
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการมอบประกาศนียบัตร และปิดการอบรมหลักสูตรการจัดการโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพ รุ่นที่ 1 โดยมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนสุขภาพ รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตภูเก็ต นายพรนริศ ชวนชยสิทธิ์ ประธานกฎบัตรไทย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมมอบประกาศนียบัตรให้ผู้สำเร็จการอบรมการจัดการโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพ รุ่นที่ 1 จำนวน 111 คน โดยมีนายก้าน ประชุมพรรณ เลขาธิการสมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย นายสมพงศ์ ดาวพิเศษ นายกสมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป ผู้เข้ารับการอบรม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมโรงแรมบียอนด์ รีสอร์ท หาดกะตะ จ.ภูเก็ต
รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กฎบัตรสุขภาพ สมาคมการผังเมืองไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่าย โดยการสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hotel for Executive) รุ่น 1 ให้ผู้บริหารโรงแรมของกลุ่มจังหวัดอันดามันและอ่าวไทย จำนวน 120 คน โดยได้ฝึกอบรมระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ย.64 ที่ผ่านมา เป็นเวลา 130 ชั่วโมง และมีผู้ผ่านการฝึกอบรมทั้งหมด 111 คน
การจัดงานครั้งนี้ มีการจัดนิทรรศการและสาธิตให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จากคณะแพทย์แผนไทย คณะพยาบาล อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ B-healthy สุโขสปา วิสาหกิจชุมชนตำบลกะรน และหน่วยงานอื่นๆ กว่า 35 หน่วยงาน และมีผู้แทนจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต มาให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อสำหรับผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้อีกด้วย
“มหาวิทยาลัยคาดหวังให้ผู้บริหารโรงแรมที่พักอันดามันและอ่าวไทย ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาคการผลิตจากภาคการโรงแรม เป็นภาคการส่งเสริมสุขภาพ การยกระดับสมรรถนะและขีดความสามารถกิจการและบุคลากรในระบบส่งเสริมสุขภาพให้ได้มาตรฐานรองรับการท่องเที่ยวสุขภาพ และการยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ ตามนโยบายรัฐบาล และคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดอันดามันและอ่าวไทย ให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต” รศ.ดร.พันธ์ กล่าว
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนสุขภาพ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนสุขภาพ ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเวลเนส ของโลก หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพราะประเทศไทยมีความพร้อม และมีความโดดเด่น ทั้งในเรื่องการดูแลสุขภาพ การรักษาพยาบาล ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย นวดไทย อาหารไทย แพทย์ทางเลือก และพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว รวมไปถึงโรงแรมเวลเนส เมื่อเอาทั้งหมดมารวมกันจะทำให้ประเทศไทยมีความโดดเด่นในการที่จะผลักดันในประเทศไทยเป็นเวลเนสของโลกได้
ในส่วนของจังหวัดกลุ่มอันดามันและอ่าวไทยก็เช่นเดียวกัน มีศักยภาพสูงมากในการให้บริการด้านเวลเนส ซึ่งกรมสนับสนุนสุขภาพ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยได้มีการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการฝึกอบรมบุคคลากรในโรงแรมเวลเนสรองรับไปแล้ว 1 รุ่น
โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตถือว่ามีความพร้อมมาก ทางจังหวัดภูเก็ตมีโครงการที่จะดำเนินการในเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพ ในที่ราชพัสดุ แปลงที่ ต.ไม้ขาว คือ โครงการเมดิคอล พลาซ่า หรือศูนย์บริการทางการแพทย์ระดับโลก ซึ่ง ครม.ได้เห็นชอบในหลักการไปแล้วในการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อจังหวัดภูเก็ตมีโครงการเมดิคอลฮับที่ไม้ขาวอยู่แล้ว จึงได้มีแนวคิดที่จะจัดงานสเปเชียล เอ็กซ์โป ขึ้นในจุดที่จะดำเนินโครงการเมดิคอลฮับ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กรมสนับสนุนสุขภาพ ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการเมดิคอลฮับของประเทศไทย และได้ผ่านการเห็นชอบไปแล้ว รวมทั้งได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ไปแล้วบางส่วน เช่น การขอให้พื้นที่จากกรมธนารักษ์และได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ 140 กว่าไร่แล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดโครงการ
รวมไปถึงทางกรมสนับสนุนสุขภาพกำลังหารือกับทางทีเส็บ ในการดึงการจัดงาน สเปเชียล เอ็กซ์โป หรือมินิ เอ็กซ์โป มาจัดที่ภูเก็ต เพราะเมื่อมีการลงทุนด้านโครงสร้างต่างๆ ไปแล้ว ก็สามารถที่จะรองรับการให้บริการด้านสุขภาพได้ ประกอบเอกชนในพื้นที่เข้มแข็งมากในการที่จะผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในเชิงเวลเนส โดยจะมีนำเสนอ ครม.และเข้าไป bidding งานดังกล่าวจากออแกไนเซอร์อีกครั้งหนึ่ง หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะมีการจัดงานด้านสุขภาพที่ภูเก็ตในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเวลเนสฮับของโลก และเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้อันดามันและอ่าวไทยเป็นพื้นที่สำหรับเวลเนสมากขึ้น
Commentaires