“อำเภอท่าแพ”ประชุมคุ้มครองผู้บริโภค

การประชุมเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าแพ ถนนสายบ้านฉลุง-ละงู อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าแพ ถนนสายบ้านฉลุง-ละงู อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล นายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอำเภอท่าแพ เป็นประธานการประชุมเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคอำเภอท่าแพ ที่ทาง นายสมเกียรติ มานีอาเหล็ม ประธานเครือข่ายผู้บริโภคอำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล จัดขึ้นโดยมีนายกอบต.ทั้ง 4 ตำบลในพื้นที่ ประธานชมรมอีหม่าม เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคตำบลตำบล ผอ.รพ.สต.สาธารณสุขอำเภอท่าแพ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 40 คน

นายสมเกียรติ กล่าวว่า เครือข่ายผู้บริโภคอำเภอท่าแพ ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคในจังหวัดสตูลมาอย่างต่อเนื่องและมีการรับเรื่องร้องเรียนไกล่เกลี่ย หรือ ประนีประนอมยอมความข้อพิพาทเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค จนสามารถดำเนินคดีในนามของสภาองค์กรของผู้บริโภค ตลอดจนดำเนินการอื่นใดตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคกำหนด รวมทั้งยังเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ดำเนินงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคในจังหวัดสตูล สำหรับการจัดตั้งเครือข่ายผู้บริโภคอำเภอท่าแพ นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้บริโภคอำเภอท่าแพ และเพื่อติดตามเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาของผู้บริโภค รวมทั้งเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ตลอดจนเพื่อพัฒนากระบวนการของผู้บริโภค ให้เกิดจิตสำนึก การบริโภคอย่างยั่งยืนและเป็นมิตร อีกทั้งเพื่อให้เข้าถึงของผู้ให้บริการและผู้รับบริการสำหรับงบประมาณที่นำมาดำเนินการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสมาคมบริโภคจังหวัดสตูล

ด้าน นายธีระพงษ์ กล่าวว่า ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนได้สละเวลา สละทั้งแรงกาย แรงใจ รวมถึงกำลังทรัพย์ เพื่อดำเนินงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคอำเภอท่าแพ ทั้งนี้จากบทบาทภารกิจที่ท่านประธานเครือข่ายได้กล่าวรายงานมา นั้น นับว่าเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญ ที่จะได้สร้างความตระหนัก สร้างจิตสำนึกในการให้บริการ และการเป็นผู้รับบริการ ในเรื่องการคุ้มครองสิทธิต่างๆแก่ผู้บริโภค ตามที่ได้รับอำนาจตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 การดำเนินงานในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่สามารถที่จะดำเนินการโดยลำพังแค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องมีการร่วมมือจากหลายภาคส่วน มีเครือข่ายความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพ.