ปลูกผม DHI คืออะไร และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

ในยุคที่ “ผมบาง ศีรษะล้าน” ไม่ใช่เรื่องของวัยอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาที่เกิดได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะมาจากกรรมพันธุ์ ความเครียด ฮอร์โมน หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต ปัญหานี้มักส่งผลต่อความมั่นใจของใครหลายคน “การปลูกผมถาวร” จึงกลายเป็นทางออกยอดนิยม โดยเฉพาะเทคนิคปลูกผมใหม่ที่ชื่อว่า DHI (Direct Hair Implantation) ซึ่งขึ้นชื่อว่าให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไว และเจ็บน้อยกว่าวิธีเดิม แต่ก่อนจะตัดสินใจทำ มาทำความเข้าใจให้ลึกขึ้นว่าเทคนิคนี้คืออะไร และควรรู้อะไรก่อนเข้ารับการปลูกผมจริง

ปลูกผม DHI คืออะไร ?

เทคนิคปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) คือการปลูกผมถาวรที่พัฒนามาจากเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) โดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่เรียกว่า DHI Implanter Pen ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถฝังรากผมลงบนหนังศีรษะได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปิดแผลหรือเจาะรูปลูกผมล่วงหน้า วิธีนี้ช่วยลดการบาดเจ็บต่อหนังศีรษะ ทำให้เลือดออกน้อย เจ็บน้อย และใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่าเดิม

ขั้นตอนการปลูกผมแบบ DHI

1. วิเคราะห์และออกแบบแนวผมใหม่ ให้เหมาะกับรูปหน้าและความหนาแน่นที่ต้องการ

2. เจาะรากผมจากบริเวณผู้บริจาค (Donor Area) ซึ่งมักอยู่บริเวณท้ายทอย

3. คัดแยกรากผมที่แข็งแรง เพื่อเตรียมปลูก

4. ปลูกผมด้วย DHI Implanter Pen โดยแพทย์จะควบคุมมุม ทิศทาง และความลึกของรากผมได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผมที่ปลูกดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของเทคนิคปลูกผม DHI

• แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว

• ไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ เหมาะกับคนที่ยังต้องใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ

• ควบคุมทิศทางและความหนาแน่นของเส้นผมได้ละเอียด

• ลดโอกาสที่รากผมจะเสียหายระหว่างปลูก

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม DHI

• ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเทคนิคทั่วไป เนื่องจากใช้เครื่องมือเฉพาะและต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง

• ต้องมีรากผมบริเวณผู้บริจาคเพียงพอ หากผมน้อยเกินไปอาจไม่เหมาะกับการปลูก

• ผลลัพธ์ต้องใช้เวลา รากผมที่ปลูกจะเริ่มงอกใหม่ภายใน 3–6 เดือน และเห็นผลชัดใน 12 เดือน

• ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติที่สุด

เทคนิคปลูกผม DHI ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาดูหนาและธรรมชาติ โดยมีข้อดีในด้านความแม่นยำและการฟื้นตัวเร็ว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจปลูกผมควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และประเมินความเหมาะสมของตนเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุดกับการลงทุนด้านความมั่นใจในครั้งนี้