เคล็ดลับการเลือกฟิล์มใสกันร้อนบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน

ฟิล์มใสกันร้อนบ้านในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภทและคุณสมบัติ การเลือกฟิล์มให้เหมาะสมกับการใช้งาน

จึงมีความสำคัญ เพื่อให้ได้ฟิล์มที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด

ประเภทของฟิล์มใสกันร้อนบ้าน

• ฟิล์มกรองแสงสีใส เป็นฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการกรองรังสีความร้อน แต่ยังให้แสงสว่างผ่านเข้ามาได้มากถึง 70 % เหมาะสำหรับบ้านหรือห้องที่ต้องการชมวิวภายนอก

• ฟิล์มกรองแสงสีดำ เป็นฟิล์มที่สามารถลดความร้อนภายในบ้านได้ดี เหมาะสำหรับบ้านหรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

คุณสมบัติของฟิล์มใสกันร้อนบ้าน

นอกจากประเภทของฟิล์มแล้ว การเลือกฟิล์มใสกันร้อนบ้านยังควรพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ ของฟิล์มด้วย เพื่อให้ได้ฟิล์มที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญ ได้แก่

• ความสามารถในการกันความร้อน หมายถึงประสิทธิภาพในการลดความร้อนภายในบ้าน โดยวัดจากค่า Visible Light Transmittance (VLT) ซึ่งค่ายิ่งต่ำยิ่งกันความร้อนได้ดี

• ความสามารถในการกันรังสี UV หมายถึงประสิทธิภาพในการปกป้องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้านจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทรัพย์สิน

• ความสามารถในการกันแสงสะท้อน หมายถึงประสิทธิภาพในการลดแสงสะท้อนจากกระจกออกไปภายนอกบ้าน

• ความสามารถในการป้องกันแสงจ้า หมายถึงประสิทธิภาพในการลดแสงจ้าจากแสงแดด

• ความสามารถในการทนต่อแรงกระแทก หมายถึงประสิทธิภาพในการปกป้องกระจกจากแรงกระแทก

ระดับความเข้ม

ฟิล์มใสกันร้อนบ้านมีระดับความเข้มให้เลือกหลากหลายระดับ โดยระดับความเข้มจะส่งผลต่อปริมาณแสงสว่างที่ผ่านเข้ามาภายในบ้าน ระดับความเข้มที่เหมาะสมควรพิจารณาจากตำแหน่งของห้องและลักษณะการใช้งานของห้องนั้นๆ โดยทั่วไประดับความเข้มของฟิล์ม ได้แก่

• ระดับความเข้ม 40 % เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องครัว

• ระดับความเข้ม 60 % เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างปานกลาง เช่น ห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร

• ระดับความเข้ม 80 % เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างน้อย เช่น ห้องนอน ห้องทำงานตอนกลางคืน

เคล็ดลับการเลือกฟิล์มใสกันร้อนบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน

• ประเภทของฟิล์ม ควรเลือกฟิล์มให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน เช่น หากต้องการชมวิวภายนอกควรเลือกฟิล์มกรองแสงสีใส หากต้องการความเป็นส่วนตัวควรเลือกฟิล์มกรองแสงสีดำ

• คุณสมบัติของฟิล์ม ควรเลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากต้องการกันความร้อนได้ดีควรเลือกฟิล์มที่มีค่า Visible Light Transmittance (VLT) ต่ำ หากต้องการปกป้องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้านจากรังสี UV ควรเลือกฟิล์มที่มีความสามารถในการกันรังสี UV สูง เป็นต้น

• ระดับความเข้มของฟิล์ม ควรเลือกระดับความเข้มที่เหมาะสมกับตำแหน่งของห้องและลักษณะการใช้งานของห้อง

นอกจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว การเลือกฟิล์มใสกันร้อนบ้านควรพิจารณาจากงบประมาณด้วย โดยแต่ละประเภทและคุณสมบัติจะมีราคาที่แตกต่างกันไป

การติดฟิล์มใสกันร้อนบ้านควรเลือกใช้บริการจากช่างที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้งานที่ดีและมีประสิทธิภาพ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสามารถช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ประหยัดค่าไฟ และปกป้องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้านจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย