6 วิธีรักษาฝ้าลึก พร้อมเข้าใจปัญหาและการดูแลอย่างตรงจุด

ฝ้าลึก เป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนกังวลใจ เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใสแล้ว ยังรักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้น เนื่องจากเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติไปสะสมอยู่ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ทำให้การใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ทั่วไปไม่สามารถเห็นผลได้รวดเร็ว วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสาเหตุของฝ้าลึก พร้อมแนะนำวิธีรักษาฝ้าลึกอย่างตรงจุดและปลอดภัย

ฝ้าลึกคืออะไร ?

ฝ้าลึก (Dermal Melasma) เป็นฝ้าที่เกิดจากเม็ดสีเมลานินสะสมลึกอยู่ในชั้นหนังแท้ โดยมักปรากฏเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มหรือสีเทา บริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก หรือเหนือริมฝีปาก ลักษณะของฝ้าลึกจะค่อนข้างชัดเจน สีเข้ม และไม่ค่อยจางหายได้เองเหมือนฝ้าตื้น สาเหตุหลักมักมาจากแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด รวมถึงการใช้ยาบางประเภท

6 วิธีรักษาฝ้าลึกให้เห็นผลอย่างปลอดภัย

วิธีรักษาฝ้าลึกจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและการดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. การรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน (MISS Surgery)

ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องผลข้างเคียงจากความร้อน คือ โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน หรือ MISS ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อจัดการปัญหาฝ้าทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก และปัญหาเม็ดสีผิดปกติบนผิวหน้าโดยเฉพาะ จุดเด่นอยู่ที่การใช้ตัวยาเฉพาะทางซึ่งสามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวทุกชั้น ช่วยลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ (Melanocyte) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า

นอกจากนี้ ยังช่วยเร่งกระบวนการกำจัดเม็ดสีส่วนเกินออกจากผิว โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมหรือการระคายเคืองต่อผิว ลดความเสี่ยงเรื่องฝ้าเข้มขึ้น รอยดำ หรือผิวบางเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์ จุดเด่นสำคัญคือ MISS จะไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง หรือเกิดแผลตกสะเก็ดหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

2. เลเซอร์รักษาฝ้าลึก

การทำเลเซอร์ เช่น Q-Switched ND:YAG, Pico Laser หรือ Fractional Laser เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถยิงพลังงานเลเซอร์ลงไปยังชั้นผิวหนังแท้เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินโดยตรง ช่วยให้ฝ้าดูจางลงและสีผิวเรียบเนียนขึ้น แต่ควรเลือกทำกับคลินิกหรือโรงพยาบาลผิวหนังที่ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ

3. ฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy)

การฉีดวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว วิธีรักษาฝ้าลึกรูปแบบนี้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลไวโดยไม่ต้องพักฟื้นผิวมากนัก แต่อาจต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง

4. ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling)

เป็นการใช้กรดผลไม้ (AHA, BHA) หรือกรดเฉพาะทางในการเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยลดความเข้มของฝ้าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ วิธีรักษาฝ้าลึกรูปแบบนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากหากใช้ความเข้มข้นที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวบางลงหรือเกิดการระคายเคืองได้

5. ใช้ครีมรักษาฝ้าที่มีส่วนผสมของไวต์เทนนิงและสารผลัดเซลล์ผิว

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น Vitamin C, Arbutin, Kojic Acid, Niacinamide และ Retinol สามารถช่วยลดเลือนฝ้าให้ดูจางลงได้บ้างในระดับหนึ่ง โดยต้องเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวและใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

6. หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ

แสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นและรักษายากขึ้น วิธีรักษาฝ้าลึกจึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ PA++++ ทุกวัน แม้อยู่ในที่ร่มหรือภายในบ้าน เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และแสงสีฟ้า

ฝ้าลึก แม้จะรักษายากกว่าฝ้าตื้น แต่หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ก็สามารถช่วยให้ฝ้าดูจางลงและผิวหน้ากลับมากระจ่างใสได้อีกครั้ง การเลือกวิธีรักษาฝ้าลึกที่เหมาะสมกับสภาพผิว ควบคู่กับการป้องกันผิวจากแสงแดด และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต จะช่วยให้การรักษาได้ผลยั่งยืนมากขึ้น

ถ้าคุณเริ่มมีฝ้าลึก หรือสงสัยว่าตัวเองมีปัญหานี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน