top of page
  • SIANGTAI TEAM

การตรวจวัดความร้อนในองค์กรสำคัญอย่างไร? มีมาตรฐานอย่างไรบ้าง

ในสถานประกอบการหลายแห่ง พนักงานอาจต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความร้อนสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพวกเขา การตรวจวัดความร้อนจึงเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญสำหรับการประเมินและควบคุมความเสี่ยงด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ


การตรวจวัดความร้อนในองค์กรคืออะไร? สำคัญอย่างไร และมีมาตรฐานการตรวจอย่างไรบ้าง บทความนี้จะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจวัดความร้อนให้คุณได้รู้จัก ดังนี้!



การตรวจวัดความร้อนในแง่ของการตรวจวัดด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม

การตรวจวัดความร้อน หมายถึง การใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมการทำงานว่ามีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่ เป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญสำหรับการประเมินและควบคุมความเสี่ยงด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม


เหตุผลที่ต้องตรวจวัดความร้อน

1. ความร้อนสูงเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน

  • พนักงานอาจเผชิญกับภาวะเครียดความร้อน ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน และอาจหมดสติได้

  • ในกรณีร้ายแรง อาจเกิดโรคลมแดด ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่รุนแรง อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ส่งผลต่อระบบประสาทและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย


2. กฎหมายกำหนดให้สถานประกอบการควบคุมอุณหภูมิในสถานที่ทำงาน

  •  ประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) กำหนดให้สถานประกอบการที่มีพนักงานทำงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีระบบระบายอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในสถานประกอบการ

  • กฎกระทรวงแรงงาน ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2537) กำหนดมาตรฐานความร้อนในสถานที่ทำงาน ดังนี้

  • อุณหภูมิอากาศไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส

  • ความชื้นสัมพัทธ์ไม่เกิน 70%

  • อุณหภูมิผิวของพนักงานไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส


วิธีการตรวจวัดความร้อนในองค์กร

การตรวจวัดความร้อนในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินและควบคุมความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความร้อนสูงเกินไป โดยวิธีการตรวจวัดความร้อนทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. การวัดอุณหภูมิอากาศ

ใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัลหรือเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดวัดอุณหภูมิของอากาศโดยรอบในสถานที่ทำงาน โดยวัดอุณหภูมิในจุดต่าง ๆ และบันทึกค่าอุณหภูมิที่วัดได้

2. การวัดอุณหภูมิผิว

ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดวัดอุณหภูมิผิวหนังของพนักงาน โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หน้าอก และหลัง ทั้งนี้ ควรวัดอุณหภูมิผิวของพนักงานก่อนเริ่มจนตลอดระยะเวลาการทำงาน และบันทึกค่าอุณหภูมิที่วัดได้

3. การวัดอุณหภูมิแบบเปียก

ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบเปียกวัดอุณหภูมิและความชื้นของอากาศ คำนวณค่า WBGT (Wet Bulb Globe Temperature) และเปรียบเทียบค่า WBGT กับค่ามาตรฐานที่กำหนด

4. จ้างบริษัทที่มีบริการวัดด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม

การจ้างบริษัทที่มีบริการวัดด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่ต้องการตรวจวัดความร้อนในสถานที่ทำงาน เนื่องจากบริษัทที่มีบริการวัดด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมมักมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ มีเครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐานและทันสมัย และมีการจัดทำรายงานผลการวัดที่ละเอียดและน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการควบคุมความร้อนได้


การตรวจวัดความร้อนเป็นวิธีการสำคัญสำหรับการประเมินและควบคุมความเสี่ยงด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม ดังนั้น สถานประกอบการหรือองค์กรจึงควรมีระบบการตรวจวัดความร้อนที่เป็นมาตรฐาน และจัดให้มีมาตรการควบคุมความร้อนเพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน

15 views0 comments
bottom of page