top of page

เทียบรถไฟฟ้า 5 รุ่นพร้อมชี้จุดเด่น ให้คุณเลือกคันที่ตอบโจทย์

  • SIANGTAI TEAM
  • 2 hours ago
  • 2 min read

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษ ประหยัดพลังงาน และมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ผู้ผลิตหลายรายยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ระบบขับขี่ และความปลอดภัย ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย


ในบทความนี้ เราจะพาคุณเปรียบเทียบรถไฟฟ้า 5 รุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย พร้อมจุดเด่นและรายละเอียดสำคัญของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด



1. Tesla Model 3 – เทคโนโลยีล้ำ สมรรถนะสูง

ราคาโดยประมาณ : 1.8 - 2.2 ล้านบาท

จุดเด่น :

  • มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย เช่น Standard Range, Long Range และ Performance

  • ระยะทางวิ่งสูงสุด 576 กิโลเมตร (รุ่น Long Range)

  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที (รุ่น Long Range)

  • รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ Autopilot และสามารถอัปเกรดเป็น Full Self-Driving (FSD)

  • หน้าจอควบคุมกลางขนาด 15 นิ้ว พร้อมระบบซอฟต์แวร์ที่อัปเดต OTA (Over-the-Air)

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง มีเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ และต้องการแบรนด์ที่เป็นผู้นำในวงการ EV


2. BYD Seal – สปอร์ตพรีเมียม คุ้มค่าเกินราคา

ราคาโดยประมาณ : 1.3 - 1.5 ล้านบาท

จุดเด่น :

  • ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัย ใกล้เคียงกับ Tesla Model 3

  • แบตเตอรี่ Blade Battery เทคโนโลยีเฉพาะของ BYD แข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยสูง

  • ระยะทางวิ่งสูงสุด 570 กิโลเมตร (รุ่น Long Range)

  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที (รุ่น Performance)

  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ในรุ่นท็อป

  • รองรับการชาร์จเร็ว DC Fast Charging สูงสุด 150 kW

เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะดี เทียบรถไฟฟ้า Tesla Model 3 ได้ในมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า


3. MG 4 Electric – ขับสนุก สมรรถนะดี ในงบที่คุ้มค่า

ราคาโดยประมาณ : 900,000 - 1.1 ล้านบาท

จุดเด่น :

  • ดีไซน์แฮทช์แบ็กสปอร์ต ขับขี่คล่องตัว

  • มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น Standard Range (425 กม.) และ Long Range (500 กม.)

  • ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้การยึดเกาะถนนที่ดี

  • รองรับการชาร์จเร็ว DC Fast Charging สูงสุด 140 kW

  • ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ MG Pilot เช่น Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าขนาดกลาง ราคาคุ้มค่า มีความสนุกในการขับขี่ และมีเทคโนโลยีช่วยขับขี่ครบครัน


4. NETA V – รถไฟฟ้าราคาเบา เหมาะกับการใช้งานในเมือง

ราคาโดยประมาณ : 549,000 บาท

จุดเด่น :

  • ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบรถไฟฟ้าในไทย

  • ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับขับในเมืองและการจอดรถในพื้นที่จำกัด

  • ระยะทางวิ่ง 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม

  • หน้าจอควบคุมขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

  • ระบบช่วยขับขี่พื้นฐาน เช่น Lane Departure Warning และ Rear Parking Sensors

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าราคาประหยัด ใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือเป็นรถคันที่สองของครอบครัว


5. Hyundai IONIQ 5 – ดีไซน์ล้ำ ฟังก์ชันครบครัน

ราคาโดยประมาณ : 2 ล้านบาท

จุดเด่น :

  • ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

  • รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 350 kW (ชาร์จ 10-80% ใน 18 นาที)

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะที่นั่งปรับเอนได้แบบ Zero Gravity Seat

  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)

  • ระยะทางวิ่งสูงสุด 614 กิโลเมตร (รุ่น Long Range RWD)

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์ล้ำสมัย มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว


เทียบรถไฟฟ้าแบบชัด ๆ รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?

  • หากต้องการเทคโนโลยีล้ำและสมรรถนะสูง → Tesla Model 3

  • ถ้าต้องการรถไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ในราคาคุ้มค่า → BYD Seal

  • ต้องการรถขับสนุกในงบที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท → MG 4 Electric

  • ถ้าหารถไฟฟ้าราคาประหยัด ใช้งานในเมือง → NETA V

  • ชอบดีไซน์ล้ำ ฟังก์ชันเยอะ และชาร์จเร็ว → Hyundai IONIQ 5


เลือกให้เหมาะกับงบประมาณและไลฟ์สไตล์ของคุณ แล้วสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถไฟฟ้าได้เลย !

Comments


หนังสือพิมพ์เสียงใต้รายวัน

เสียงใต้ เป็นหนังสือพิมพ์รายวันที่เป็นที่รู้จักในทุกภูมิภาคโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ มานานกว่า 40 ปี ขณะที่เวลาเดินหมุนไปเราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนา ผลิตข่าวสารเพื่อสังคม ยืนยัดเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องทั้งในภูเก็ตหรือต่างจังหวัด

  • White Facebook Icon

© 2025 by Siangtai Daily Newspaper Co., Ltd. All Rights Reserved.

bottom of page