เรื่องต้องรู้ก่อน “เคลมประกันรถไม่มีคู่กรณี” เตรียมตัวยังไง?

เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การมีประกันรถยนต์ไว้คุ้มครองย่อมช่วยบรรเทาความเสียหายทางการเงินได้ แต่กรณี "อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี" อาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้เอาประกันไม่น้อย เพราะมีความยุ่งยากและขั้นตอนที่ต้องเตรียมตัวมากกว่าการเคลมแบบมีคู่กรณี ดังนั้น การศึกษาข้อมูลและเตรียมพร้อมก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ย่อมช่วยให้การเคลมประกันราบรื่นและรวดเร็วขึ้น

การเคลมประกันรถไม่มีคู่กรณีหมายถึงอะไร ?

เคลมประกันรถไม่มีคู่กรณี หมายถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยกรณีที่ไม่มีฝ่ายตรงข้ามหรือคู่กรณีเกี่ยวข้อง ซึ่งมักเป็นกรณีดังต่อไปนี้

1.     อุบัติเหตุคนเดียว เช่น รถเสียหลักชนกำแพงหรือต้นไม้ รถลื่นไถลออกนอกทาง เป็นต้น

2.     ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม หรือหินหรือวัตถุตกหล่นใส่รถ

3.     ความเสียหายจากการกระทำของบุคคลที่สาม เช่น การถูกทำร้ายทำลายทรัพย์สิน การถูกขโมย

4.     ความเสียหายจากสัตว์ เช่น รถชนสัตว์เลี้ยง วัว ควาย กวาง เป็นต้น

ในกรณีเหล่านี้ผู้เอาประกันภัยสามารถเคลมค่าสินไหมจากบริษัทประกันภัยของตนเองได้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณีหรือฝ่ายตรงข้ามที่ต้องรับผิดชอบความเสียหาย

ประกันแบบไหนที่สามารถเคลมประกันรถไม่มีคู่กรณีได้

ประกันที่สามารถเคลมประกันรถไม่มีคู่กรณีได้ แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. ประกันชั้น 1

ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด รวมถึงกรณีไม่มีคู่กรณี เช่น รถชนเสาไฟฟ้า ยางระเบิด กระจกแตก โดยจะสามารถเคลมได้กี่ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน ซึ่งเบี้ยประกันของประกันชั้น 1 จะสูงที่สุดในบรรดากรมธรรม์ประกันรถยนต์ทั้งหมด แต่ก็มาพร้อมความคุ้มครองที่สูงที่สุดด้วย

2. ประกันชั้น 2

ประกันชั้น 2 บางประเภทคุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี แต่จะเคลมได้กี่ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน โดยประกันชั้น 2 จะมีเบี้ยประกันจะรองลงมาจากประกันชั้น 1

3. ประกันชั้น 3+ บางประเภทอาจคุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี แต่ต้องศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

หลักฐานที่ต้องใช้ในการเคลมประกันรถไม่มีคู่กรณี

• เอกสารสำคัญ เช่น สำเนาทะเบียนรถ ใบขับขี่ พรบ.

• เอกสารที่แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น รูปถ่ายที่เกิดเหตุ บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด

• ใบแจ้งความ (ถ้ามี)

• ใบเสร็จค่าซ่อม (กรณีเคลมแบบแห้ง หรือเคลมหลังซ่อม)

การเตรียมพร้อมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์อยู่เสมอจะช่วยให้คุณมั่นใจและรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การใช้รถและใช้ถนนอย่างไม่ประมาทนั้นสำคัญที่สุดเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้ดีที่สุด