ต้อนรับอบอุ่น ทัพพาราไทยชุดสุดท้ายจากญี่ปุ่นเดินทางถึงภูเก็ตเข้า “Phuket Sandbox” 14 วัน
8 ก.ย. 64 นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬาพาราไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันโตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ชุดสุดท้าย ประกอบด้วย นักกีฬาบอคเซีย, แบดมินตัน, วีลแชร์, เทนนิส และยิงปืน รวมจำนวนทั้งหมด 55 คน เดินทางถึงสนามบินภูเก็ต ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทัพนักกีฬาได้เข้าสู่กระบวนการเข้าเมือง และรับการตรวจสวอปตามมาตรการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยมีกำหนดการจะพักอยู่ในภูเก็ต 14 วัน
ในการนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชิญดอกไม้พระราชทาน และสิ่งของพระราชทาน มอบให้นักกีฬาที่ได้รับเหรียญในแต่ละประเภทกีฬา และผู้ฝึกสอนด้วย
นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับภาพรวมผลการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งจบการแข่งขันไทยอยู่ในอันดับที่ 25 และเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน, ญี่ปุ่น, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และอินเดีย หลังจากนี้ทางการกีฬาจะนำวิทยาศาสตร์ด้านการกีฬาเข้ามาช่วยดูแลนักกีฬาให้มากขึ้นหลังจากพบว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีนักกีฬาหลายคนร่างกายบาดเจ็บ
ส่วนการสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้กับนักกีฬานั้นนายก้องศักด ระบุว่ารัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะดำเนินการผลักดันบรรจุนักกีฬาผู้พิการ รวมถึงบุคลากรด้านการกีฬาให้เข้าทำงานของสถาบันรัฐที่มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญเพราะเป็นการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาผู้พิการให้คนไทยได้รับชมเป็นครั้งแรก ซึ่งผลตอบรับเป็นไปด้วยดีและขอให้คนไทยร่วมกันให้กำลังใจนักกีฬาผู้พิการในการแข่งขันครั้งต่อไปด้วย ซึ่งทุกคนยังคงตั้งเป้าจะทำผลงานที่ดีขึ้นกว่าครั้งนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ในปีหน้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงกติกาการแข่งขันในกีฬาบางประเภทโดยเฉพาะกีฬาบอคเซียซึ่งประเทศไทยสามารถครองเจ้าเหรียญทองต่อเนื่องกันมาได้ถึง 3 สมัยส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั้นต้องติดตามอีกครั้ง
ด้านนายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการผลักดันเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้กับนักกีฬา ว่า ก่อนที่คณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอน จะเดินทางไปแข่งขัน ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แจ้งให้ทราบว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่านักกีฬาที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ทุกคนจะต้องมีงานทำอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นการได้รับคำมั่นสัญญาและขวัญกำลังใจจากรัฐบาล จึงทำให้การแข่งขันครั้งนี้นักกีฬามีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะได้รับโอกาสในการทำงาน เพราะเดิมภาพของคนพิการจะไม่มีโอกาสทางการศึกษา หรือแม้ว่าจะมีโอกาสทางการศึกษาแล้ว แต่ก็ไม่มีงานทำ แต่คณะรัฐบาลชุดนี้เห็นความสำคัญของการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และนโยบายที่ว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังก็เริ่มจะเป็นจริง และแม้แต่คนพิการก็ได้รับโอกาสนี้ ทำให้คณะกรรมการพาราลิมปิก และคณะกรรกมการสมาคมพิการขอขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่ให้นโยบายนี้มา ทำให้พวกเรามีกำลังใจและมั่นใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้งและถูกละเลย โดยจะเดินร่วมกันไปในสังคม